ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า[เอาแต่ที่ดังๆๆนะ]
2 posters
ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า[เอาแต่ที่ดังๆๆนะ]
เทพโอซีริส (Osiris) คือหนึ่งในเทพของ ตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์ เทพแห่งเกษตรกรรม โบราณ ซึ่งผู้นับถือมาจากซีเรีย (Syria) ทรงเป็นพระโอรสองค์แรกของเทพเกบและเทวีนุต ทรงเกิดที่เมืองธีบส์ (Thebes) เมื่อทรงประสูติ มีเสียงร้องดังเข้าไปถึงในวิหารร้องว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และเพียบพร้อมได้ประสูติแล้ว หรือเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดได้เข้ามาสู่แสงสว่างแล้ว
กล่าวกันว่าเทพโอซีริส และเทวีไอซิสตกหลุมรักกันตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ บางกรณีก็กล่าวว่าทั้งสองพระองค์ทรงอภิเษกกัน และเทพโอซีริสได้บัลลังค์จากเทพเกบผู้เป็นบิดา
ตามตำนานของเทพโอซีริส พระองค์ได้สอนศิลปวิทยาการทั้งหลายแก่มวลมนุษย์ โดยมีเทพธอธเป็นผู้ช่วย ในช่วงที่เทพโอซีริสไม่อยู่นั้น เทพเซ็ตซึ่งเป็นพระอนุชาคิดกบฎ อยากได้บัลลังค์และตัวเทวีไอซิส ทั้งยังต้องการเปลี่ยนกฏระเบียบใหม่ แต่เทวีไอซิสรู้ทันทุกครั้ง
ครั้งเมื่อเทพโอซีริสเสด็จกลับมาไม่นาน เทพเซ็ตและอาโส (Aso) ราชินีแห่งเอธิโอเปียและกบฏอีก 72 คน ได้ร่วมกันล้มล้างเทพโอซีริสจนสำเร็จ ร่างของเทพโอสซีริสถูกจับโยนลงแม่น้ำนิล เทวีไอซิสพยายามค้นหาจนพบแล้วใช้พลังมายิกของพระนางร่วมกับความช่วยเหลือของเทพธอธ เทวีเนฟธีส เทพอานูบิสและเทพฮอรัส ทำให้เทพโอซีริสซึ่งได้เดินทางไปยังโลกแห่งความตายหรือมตภพดูอัตแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่พระองค์อยากปกครองโลกแห่งความตายมากกว่า ดังนั้นจึงยกราชสมบัติให้เทพฮอรัสผู้เป็นโอรสแทน
สัญลักษณ์ของพระองค์มักเป็นชาย ประทับยืนอยู่หรือประทับนั่งบนบังลังค์ หรือวาดเป็นมนุษย์กำลังลุกจากแท่นตั้งศพ หรือเป็นกษัตริย์พระหัตถ์โผล่ขึ้นมาจากผ้าพันมัมมี่ ถือแส้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุด พระวรกายเป็นสีแดงแสดงถึงพื้นดิน หรือสีเขียวที่แสดงถึงพืชพันธุ์ ทรงสวมมงกุฏสีขาวแสดงถึงไอยคุปต์ตอนบน และมีขนนกสีแดงสองเส้นแห่งเมืองบูสีริส(Busiris) ประดับอยู่ บางครั้งจะสวมวงสุริยะและเขาสัตว์
กล่าวกันว่าเทพโอซีริส และเทวีไอซิสตกหลุมรักกันตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ บางกรณีก็กล่าวว่าทั้งสองพระองค์ทรงอภิเษกกัน และเทพโอซีริสได้บัลลังค์จากเทพเกบผู้เป็นบิดา
ตามตำนานของเทพโอซีริส พระองค์ได้สอนศิลปวิทยาการทั้งหลายแก่มวลมนุษย์ โดยมีเทพธอธเป็นผู้ช่วย ในช่วงที่เทพโอซีริสไม่อยู่นั้น เทพเซ็ตซึ่งเป็นพระอนุชาคิดกบฎ อยากได้บัลลังค์และตัวเทวีไอซิส ทั้งยังต้องการเปลี่ยนกฏระเบียบใหม่ แต่เทวีไอซิสรู้ทันทุกครั้ง
ครั้งเมื่อเทพโอซีริสเสด็จกลับมาไม่นาน เทพเซ็ตและอาโส (Aso) ราชินีแห่งเอธิโอเปียและกบฏอีก 72 คน ได้ร่วมกันล้มล้างเทพโอซีริสจนสำเร็จ ร่างของเทพโอสซีริสถูกจับโยนลงแม่น้ำนิล เทวีไอซิสพยายามค้นหาจนพบแล้วใช้พลังมายิกของพระนางร่วมกับความช่วยเหลือของเทพธอธ เทวีเนฟธีส เทพอานูบิสและเทพฮอรัส ทำให้เทพโอซีริสซึ่งได้เดินทางไปยังโลกแห่งความตายหรือมตภพดูอัตแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่พระองค์อยากปกครองโลกแห่งความตายมากกว่า ดังนั้นจึงยกราชสมบัติให้เทพฮอรัสผู้เป็นโอรสแทน
สัญลักษณ์ของพระองค์มักเป็นชาย ประทับยืนอยู่หรือประทับนั่งบนบังลังค์ หรือวาดเป็นมนุษย์กำลังลุกจากแท่นตั้งศพ หรือเป็นกษัตริย์พระหัตถ์โผล่ขึ้นมาจากผ้าพันมัมมี่ ถือแส้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุด พระวรกายเป็นสีแดงแสดงถึงพื้นดิน หรือสีเขียวที่แสดงถึงพืชพันธุ์ ทรงสวมมงกุฏสีขาวแสดงถึงไอยคุปต์ตอนบน และมีขนนกสีแดงสองเส้นแห่งเมืองบูสีริส(Busiris) ประดับอยู่ บางครั้งจะสวมวงสุริยะและเขาสัตว์
Re: ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า[เอาแต่ที่ดังๆๆนะ]
อันนี้ไม่เคยได้ยินแต่เห็นเป็นเทพแห่งความรัก
Eros(Cupid) เทพแห่งความรัก(กามเทพ) บุตรแห่ง Aphrodite แต่งงานกับนาง Psyche
--------------------------------------------------------------------------------
นาง Psyche ได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามที่สุดในหมู่มวลมนุษย์ จนเสียงเล่าลือมาเข้าหูเทพี Aphrodite(Venus) เทพีที่งามที่สุดในจักรวาล เมื่อได้ยินว่ามีหญิงสาวที่งามกว่าตน ป้าวีนัส จึงสั่งให้ลูกของตน คือ Cupid ไปยิงศรกามเทพ ให้นางไซคี ไปหลงรักกับชายที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก ด้วยความที่ คิวปิด เป็นเด็กว่าง่าย จึงไปตามคำบัญชาของเสด็จแม่ แต่พอ คิวปิด ได้ไปสบพักตร์กับนาง ไซคี ก็เกิดรักแรกพบ ในทันใด เกิดอาการตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่น จนไปถูกพิษรักแห่งศรกามเทพของตนเอง เมื่อถึงกลางคืน เทพคิวปิด ก็เข้าหา นางไซคี และตกลงเป็นผัวเมียกัน โดยมีข้อแม้ว่า คิวปิดจะมาหาทุกๆคืน แต่นางจะต้องไม่เห็นหน้าพระสวามีเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้เรื่องรักพลิกล็อคล่วงรู้ไปถึงป้าวีนัส เสด็จแม่ของคิวปิด หลายเดือนผ่านไป พี่สาวโสดขี้อิจฉา(มีคนขี้อิจฉาเยอะแฮะ)ก็ยุแหย่ว่าที่พระสวามีมีหน้าตาอัปลักษณ์ จึงไม่ต้องการให้นางเห็นหน้า นางไซคีจึงสงสัย และพิสูจน์โดยการแอบเอาเทียนไขไปส่องดูหน้าพระสวามี (แต่น แตน แต้น) นางก็พบว่าพระสวามีที่แท้เป็นเทพหนุ่มรูปงาม เทพคิวปิดโกรธที่นางหูเบาหลงเชื่อพี่สาว และผิดสัญญาที่ได้รับปากไว้ เทพคิวปิดจึงละทิ้งนางทันที นางทนเหงาไม่ไหว จึงไปวิหารเดลฟี และได้รับคำแนะนำให้ ไปผจญภัยเพื่อพิสูจน์ความรัก ต้องผ่านการทดสอบหฤโหดต่างๆจากป้าวีนัส(แม่สามี) จนครบและได้ครองรักกับคิวปิดในที่สุด
นาง Psyche เป็นสัญลักษณ์แทนวิญญาณของมนุษย์ ที่ในยามมีชีวิตอยู่ ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ เมื่อตายไปก็สลัดร่างขึ้นสู่สรวงสวรรค์(เหมือนกับหนอนดักแด้สลัดร่างเดิมกลายเป็นผีเสื้อที่แสนสวย) กลายเป็นเทพธิดาที่มีปีกเป็นผีเสื้อ และครองคู่กับ Cupid เทพบุตรในร่างของทารกมีปีกนก และศรกามเทพ และนำไปใช้เป็นคำกรีกที่มีความหมายว่า วิญญาณหรือจิต {เป็นที่มาของ Psychology(จิตวิทยา) และ Psychiatrist(จิตแพทย์)}
นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง (เมื่อรักกัน ก็ต้องเชื่อใจกัน แกล้งทำตาบอด หูหนวก เป็นใบ้บ้าง ก็ไม่เสียหลาย)
Eros(Cupid) เทพแห่งความรัก(กามเทพ) บุตรแห่ง Aphrodite แต่งงานกับนาง Psyche
--------------------------------------------------------------------------------
นาง Psyche ได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามที่สุดในหมู่มวลมนุษย์ จนเสียงเล่าลือมาเข้าหูเทพี Aphrodite(Venus) เทพีที่งามที่สุดในจักรวาล เมื่อได้ยินว่ามีหญิงสาวที่งามกว่าตน ป้าวีนัส จึงสั่งให้ลูกของตน คือ Cupid ไปยิงศรกามเทพ ให้นางไซคี ไปหลงรักกับชายที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก ด้วยความที่ คิวปิด เป็นเด็กว่าง่าย จึงไปตามคำบัญชาของเสด็จแม่ แต่พอ คิวปิด ได้ไปสบพักตร์กับนาง ไซคี ก็เกิดรักแรกพบ ในทันใด เกิดอาการตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่น จนไปถูกพิษรักแห่งศรกามเทพของตนเอง เมื่อถึงกลางคืน เทพคิวปิด ก็เข้าหา นางไซคี และตกลงเป็นผัวเมียกัน โดยมีข้อแม้ว่า คิวปิดจะมาหาทุกๆคืน แต่นางจะต้องไม่เห็นหน้าพระสวามีเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้เรื่องรักพลิกล็อคล่วงรู้ไปถึงป้าวีนัส เสด็จแม่ของคิวปิด หลายเดือนผ่านไป พี่สาวโสดขี้อิจฉา(มีคนขี้อิจฉาเยอะแฮะ)ก็ยุแหย่ว่าที่พระสวามีมีหน้าตาอัปลักษณ์ จึงไม่ต้องการให้นางเห็นหน้า นางไซคีจึงสงสัย และพิสูจน์โดยการแอบเอาเทียนไขไปส่องดูหน้าพระสวามี (แต่น แตน แต้น) นางก็พบว่าพระสวามีที่แท้เป็นเทพหนุ่มรูปงาม เทพคิวปิดโกรธที่นางหูเบาหลงเชื่อพี่สาว และผิดสัญญาที่ได้รับปากไว้ เทพคิวปิดจึงละทิ้งนางทันที นางทนเหงาไม่ไหว จึงไปวิหารเดลฟี และได้รับคำแนะนำให้ ไปผจญภัยเพื่อพิสูจน์ความรัก ต้องผ่านการทดสอบหฤโหดต่างๆจากป้าวีนัส(แม่สามี) จนครบและได้ครองรักกับคิวปิดในที่สุด
นาง Psyche เป็นสัญลักษณ์แทนวิญญาณของมนุษย์ ที่ในยามมีชีวิตอยู่ ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ เมื่อตายไปก็สลัดร่างขึ้นสู่สรวงสวรรค์(เหมือนกับหนอนดักแด้สลัดร่างเดิมกลายเป็นผีเสื้อที่แสนสวย) กลายเป็นเทพธิดาที่มีปีกเป็นผีเสื้อ และครองคู่กับ Cupid เทพบุตรในร่างของทารกมีปีกนก และศรกามเทพ และนำไปใช้เป็นคำกรีกที่มีความหมายว่า วิญญาณหรือจิต {เป็นที่มาของ Psychology(จิตวิทยา) และ Psychiatrist(จิตแพทย์)}
นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง (เมื่อรักกัน ก็ต้องเชื่อใจกัน แกล้งทำตาบอด หูหนวก เป็นใบ้บ้าง ก็ไม่เสียหลาย)
Re: ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า[เอาแต่ที่ดังๆๆนะ]
Athena(Minerva) เทพีแห่งสงคราม, ปัญญาและคุณธรรม เป็นเทพีประจำกรุงเอเธนส์ สวมชุดเกราะและมีโล่ห์ Aegis ที่ทำด้วยหนังแพะและมีหัวเมดูซ่าอยู่ตรงกลาง รักษาพรหมจรรย์ ไม่แต่งงานกับใคร มีอารมณ์รุนแรง แต่ฉลาด มีสัญลักษณ์คือ ต้นมะกอกน้ำ(Olive) และนกฮูก ธิดาของซุสกับ Metis (ธิดาของ Oceanus)
ขณะที่นางเมตีส กำลังตั้งครรภ์ เสด็จย่า Ge ก็ทำนายว่า เมตีส จะมีโอรสและธิดา อย่างละองค์ องค์แรกเป็นเทพธิดา องค์ที่ 2 เป็นเทพบุตร โดยเทพบุตรองค์ที่ 2 จะมาโค่นบังลังค์ของ ซุส เหมือนที่ซุสโค่นบังลังค์ของโครโนสมาแล้ว ซุสก็ออกตามหาเมตีส ที่รู้แกว แอบหนีไปซ่อนตัวเสียก่อน เมื่อซุสค้นหานางเมตีสจนพบ ก็กลืนนางเมตีสเข้าท้องหมดทั้งตัว ต่อมาไม่นาน ซุสก็เกิดอาการปวดศรีษะอย่างแรง กินยาแก้ปวดขนานไหนๆก็ไม่หาย ร้องครวญครางเสียงดังไปทั้งเขาโอลิมปัส เทพเฮอร์เมสไดยินเสียงจึงรีบไปสอบถามอาการโดยด่วน และรีบไปตามเทพ Hephaestus เทพแห่งการตีเหล็กมาทันที เนื่องจากอาการรุนแรงเกินกว่าจะรักษาด้วยยาใดๆ เทพเฮปเฟสตุส ก็เอาเลื่อยมาเลื่อยเปิดกระโหลกศรีษะเทพซุสออก ทันใดนั้น เทพธิดาเอธีน่า ก็กระโดดออกมาจากศรีษะของเทพซุส
นิทานเรื่องนี้ สอนว่า อย่ายัดอะไรก็ตามเข้าปากโดยไม่พินิจพิจารณาก่อน อันตรายมาจากปากของคุณเอง
ขณะที่นางเมตีส กำลังตั้งครรภ์ เสด็จย่า Ge ก็ทำนายว่า เมตีส จะมีโอรสและธิดา อย่างละองค์ องค์แรกเป็นเทพธิดา องค์ที่ 2 เป็นเทพบุตร โดยเทพบุตรองค์ที่ 2 จะมาโค่นบังลังค์ของ ซุส เหมือนที่ซุสโค่นบังลังค์ของโครโนสมาแล้ว ซุสก็ออกตามหาเมตีส ที่รู้แกว แอบหนีไปซ่อนตัวเสียก่อน เมื่อซุสค้นหานางเมตีสจนพบ ก็กลืนนางเมตีสเข้าท้องหมดทั้งตัว ต่อมาไม่นาน ซุสก็เกิดอาการปวดศรีษะอย่างแรง กินยาแก้ปวดขนานไหนๆก็ไม่หาย ร้องครวญครางเสียงดังไปทั้งเขาโอลิมปัส เทพเฮอร์เมสไดยินเสียงจึงรีบไปสอบถามอาการโดยด่วน และรีบไปตามเทพ Hephaestus เทพแห่งการตีเหล็กมาทันที เนื่องจากอาการรุนแรงเกินกว่าจะรักษาด้วยยาใดๆ เทพเฮปเฟสตุส ก็เอาเลื่อยมาเลื่อยเปิดกระโหลกศรีษะเทพซุสออก ทันใดนั้น เทพธิดาเอธีน่า ก็กระโดดออกมาจากศรีษะของเทพซุส
นิทานเรื่องนี้ สอนว่า อย่ายัดอะไรก็ตามเข้าปากโดยไม่พินิจพิจารณาก่อน อันตรายมาจากปากของคุณเอง
Re: ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า[เอาแต่ที่ดังๆๆนะ]
กำลังหาเวลาอ่าน
NUMBERTHIRTYFOUR DOW!!~- คนในครอบครัว /6
- จำนวนข้อความ : 946
Join date : 14/07/2009
: 29
ที่อยู่ : ไส้ติ่งของพารามีเซียม :D //บริษัท เนียน!!
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|